รับน้ำหนักได้สูงสุด 60 กิโลกรัม: KR SCARA ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
รับน้ำหนักได้มากขึ้น ระยะยืดที่ยืดหยุ่น ความแม่นยำและความเร็วสูงเช่นเคย: พบกับหุ่นยนต์ KR SCARA รุ่นใหม่ของเราและทำความรู้จักกับขอบเขตการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไปจนถึงอุตสาหกรรมยา
4 กันยายน 2567
ระยะยืดสูงสุด 1.2 เมตรในขนาดที่กะทัดรัด: ทำงานใหม่ ๆ ได้มากขึ้นด้วยรุ่น KR 20
KR SCARA รับน้ำหนักได้ 60 กก.: ขุมพลังสำหรับการผลิตแบตเตอรี่และอุปกรณ์อื่น ๆ
อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์: ความเป็นเลิศด้านความสะอาด
อุตสาหกรรม 3C: การใช้งาน KR SCARA เชี่ยวชาญการประกอบและการจัดการชิ้นส่วนที่ละเอียดอ่อน เช่น เลนส์ออปติกและกระจกหน้าจอ รวมถึงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก หุ่นยนต์รุ่นคลีนรูมได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO Class 5 จึงเหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมการผลิตที่สะอาด ทำให้สามารถตอบสนองข้อกำหนดด้านคุณภาพที่เข้มงวดได้ การเปลี่ยนกระบวนการให้กลายเป็นระบบอัตโนมัติช่วยลดข้อผิดพลาดในการผลิตและเพิ่มความแม่นยำในการผลิตใน อุตสาหกรรม 3C ได้
การประกอบ PCB: หุ่นยนต์ SCARA วางส่วนประกอบต่าง ๆ บน PCB ด้วยความแม่นยำสูงสุด ทำให้กระบวนการผลิตเร็วขึ้นและลดข้อผิดพลาดลงได้ในเวลาเดียวกัน ความแม่นยำสูงของหุ่นยนต์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดอัตราข้อผิดพลาดได้อย่างมาก
การบัดกรีและการควบคุมคุณภาพ: ไม่ว่าจะเป็นงานบัดกรีหรือการควบคุมคุณภาพของส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อต้องดำเนินงานที่มีความแม่นยำสูง หุ่นยนต์ SCARA ก็สามารถสร้างความประทับใจให้ด้วยความเร็วและความน่าเชื่อถือเสมอ ความสามารถในการทำงานที่สม่ำเสมอทำให้มั่นใจได้ว่าส่วนประกอบแต่ละชิ้นได้รับการผลิตตามมาตรฐานสูงสุด
อิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์: หุ่นยนต์ SCARA ที่ได้รับการป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ (ESD) ช่วยให้จัดการส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ในห้องคลีนรูมได้อย่างปลอดภัย หุ่นยนต์อุตสาหกรรมรุ่นนี้ยังเหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานหยิบและวางหรือการขันสกรูและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือในการผลิต อีกทั้งยังช่วยปรับปรุงความต่อเนื่องในการผลิตและลดระยะเวลาในการผลิตลงได้อย่างมาก
หุ่นยนต์สี่แกนในอุตสาหกรรมการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและการผลิตแบตเตอรี่
หุ่นยนต์สี่แกนช่วยเพิ่มผลผลิตในอุตสาหกรรมการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและการผลิตแบตเตอรี่
การประกอบโมดูลและชุดแบตเตอรี่: หุ่นยนต์อุตสาหกรรมทำหน้าที่ประกอบโมดูลและชุดแบตเตอรี่ เชื่อมต่อสายไฟ และประกอบตัวเรือนแบตเตอรี่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตและรับรองมาตรฐานคุณภาพสูงสุด การเปลี่ยนงานดังกล่าวให้ดำเนินงานโดยระบบอัตโนมัติทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอมากขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มอายุการใช้งานและความปลอดภัยของแบตเตอรี่
การจัดเรียงขึ้นพาเลทและการจัดการ: หุ่นยนต์ SCARA สามารถจัดวางแบตเตอรี่ที่มีน้ำหนักมากซ้อนกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถจัดเรียงแบตเตอรี่ขึ้นพาเลทในการผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำอีกด้วย นอกจากนี้ หุ่นยนต์ก็ยังจัดการกับแบตเตอรี่ลิเธียม ส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนรถยนต์ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งช่วยเพิ่มกำลังการผลิตและลดภาระงานที่ต้องใช้แรงของพนักงานได้ในเวลาเดียวกัน
มาตรฐานด้านสุขอนามัยสูงสุดสำหรับห้องคลีนรูมตามมาตรฐาน ISO
เทคโนโลยีทางการแพทย์: สำหรับการผลิตอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ในสภาพแวดล้อมห้องคลีนรูม รุ่นคลีนรูมที่ผ่านการรับรองตามมาตรฐาน ISO 5 สามารถผลิตได้โดยปราศจากอนุภาค หุ่นยนต์รุ่นนี้รับประกันได้ถึงกระบวนการผลิตที่ปลอดภัยและถูกสุขอนามัย ซึ่งตรงตามมาตรฐานที่เข้มงวดของอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ
การจัดการชิ้นส่วนพลาสติกทางการแพทย์: เมื่อต้องจัดการชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับการใช้งานทางการแพทย์ หุ่นยนต์ SCARA สามารถรับประกันได้ถึงประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากมีความเร็วสูง ใช้พื้นที่เพียงเล็กน้อย และมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งช่วยลดข้อผิดพลาดและต้นทุนในการผลิตได้อย่างมาก รวมทั้งยังช่วยให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพที่สม่ำเสมอของผลิตภัณฑ์อีกด้วย
การบรรจุยาลงบรรจุภัณฑ์: ในการบรรจุยาลงบรรจุภัณฑ์ หุ่นยนต์ SCARA สร้างความประทับใจให้จากการทำงานที่รวดเร็วและแม่นยำ จึงช่วยให้สามารถจัดการยาที่อ่อนไหวได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น โซลูชันการบรรจุลงบรรจุภัณฑ์โดยอัตโนมัติช่วยลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนและเพิ่มผลผลิต
อุตสาหกรรมยานยนต์: กระบวนการที่เหมาะสมตั้งแต่การประกอบชิ้นส่วนขนาดเล็กไปจนถึงการประกอบขั้นสุดท้าย
การประกอบชิ้นส่วนขนาดเล็ก: การใช้งาน KR SCARA เหมาะสำหรับการประกอบชิ้นส่วนขนาดเล็ก เช่น เซ็นเซอร์ สวิตช์ และขั้วต่อ การใช้งานดังกล่าวรับประกันถึงความแม่นยำและความน่าเชื่อถือในกระบวนการประกอบและลดการสูญเสียวัสดุในเวลาเดียวกัน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและรับประกันคุณภาพที่สม่ำเสมอของชิ้นส่วนที่ประกอบแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือการผลิตที่รวดเร็วขึ้นอย่างมาก
การจัดการวัสดุ: หุ่นยนต์เชื่อมต่อสถานีการผลิตเข้าด้วยกันและทำให้กระบวนการราบรื่น ซึ่งช่วยลดเวลาในการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของสายการผลิตได้
อุตสาหกรรมอาหาร: ระบบอัตโนมัติที่เชื่อถือได้ในสภาพแวดล้อมการผลิตที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
มีการนำหุ่นยนต์ SCARA มาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารอย่างประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะซีรีส์ Hygienic Oil (HO) ซึ่งทำงานร่วมกับสารหล่อลื่นเกรดอาหาร ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการพิเศษในอุตสาหกรรมขั้นทุติยภูมิ (Secondary Industry) ได้
การหยิบและวาง การติดตามสายพานลำเลียง: หุ่นยนต์ KR SCARA ช่วยให้บรรจุและคัดแยกอาหารและเครื่องดื่มได้อย่างแม่นยำในระยะเวลาที่สั้นที่สุด ความแม่นยำในการเคลื่อนไหวที่สูงทำให้การทำงานในสภาพแวดล้อมการผลิตที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ การใช้หุ่นยนต์รุ่นนี้ช่วยลดเวลาในการผลิตและลดต้นทุนในการดำเนินงาน
การควบคุมคุณภาพ: การผสานรวมหุ่นยนต์ SCARA เข้ากับกระบวนการควบคุมคุณภาพสามารถรับประกันได้ว่าจะมีการบรรจุเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ไร้ที่ติเท่านั้น ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าปลายทางจะพึงพอใจ กระบวนการตรวจสอบโดยอัตโนมัติยังช่วยลดของเสียและรับรองคุณภาพที่สม่ำเสมอของผลิตภัณฑ์อีกด้วย
ขอบเขตการใช้งานเพิ่มเติม: ตั้งแต่อุตสาหกรรมพลาสติกไปจนถึงอุตสาหกรรมสิ่งทอ
อุตสาหกรรมยางและพลาสติก: หุ่นยนต์ KR SCARA ที่มีระดับการป้องกัน IP54 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับกระบวนการฉีดขึ้นรูป กระบวนการเชื่อม และการขนย้ายชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักมาก ความสามารถในการรับน้ำหนักทำให้หุ่นยนต์เหมาะสำหรับการจัดการชิ้นส่วนหลายชิ้น โดยการออกแบบที่แข็งแกร่งและความอเนกประสงค์นั้นจะช่วยเพิ่มผลผลิตและลดเวลาหยุดทำงานของหุ่นยนต์ลง คุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรมพลาสติกได้ที่นี่
อุตสาหกรรมสิ่งทอ: ความยืดหยุ่นและความเร็วมหาศาลของหุ่นยนต์ SCARA ช่วยลดความยุ่งยากในขั้นตอนการประกอบและกระบวนการจัดการวัสดุต่าง ๆ มากมายในการผลิตสิ่งทอ ซึ่งช่วยเร่งกระบวนการผลิตให้เร็วขึ้นและปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น
อุตสาหกรรมโลหะ: หุ่นยนต์ SCARA ของเราเหมาะกับอุตสาหกรรมโลหะเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีขนาดกะทัดรัดและรวดเร็ว หุ่นยนต์สามารถผลิตในเซลล์การผลิตที่เล็กที่สุดและรองรับกระบวนการผลิตที่มีความแม่นยำสูง ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพได้
พลังงานหมุนเวียน: หุ่นยนต์ SCARA ยังมีบทบาทสำคัญและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตพลังงานหมุนเวียนอีกด้วย เช่น การประกอบโซลาร์เซลล์หรือกังหันลม การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและแม่นยำทำให้สามารถผลิตเทคโนโลยีที่ยั่งยืนได้อย่างคุ้มต้นทุน