บริษัท Bilcare Research AG นับว่าเป็นผู้นำในตลาดโลกในด้านการผลิตแผ่นฟิลม์ป้องกัน และแผ่นฟิลม์ชนิดที่เหนียวเป็นพิเศษ บริษัทมุ่งเน้นในการผลิตแผ่นฟิลม์มานานกว่า 50 ปี และเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นที่เหมาะกับลูกค้าในกลุ่มเภสัชกรรม อุตสาหกรรมการพิมพ์และฉลาก รวมถึงลูกค้าที่ให้บริการด้านความปลอดภัย และลูกค้าที่ให้บริการบัตรเครดิต เพื่อที่จะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันระยะยาว Bilcare จึงนำระบบอัตโนมัติมาใช้งานใน ฝ่ายการบรรจุสินค้าและการบรรจุภัณฑ์ ที่โรงงานในเมือง Bötzingen ด้วยความช่วยเหลือจากพันธมิตรทาง ระบบของ KUKA อย่าง KOCH Industrieanlagen หุ่นยนต์ของ KUKAทั้งหมดเจ็ดตัวจะรับประกันการบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและรวดเร็วด้วยม้วนแผ่นฟิลม์
ความซับซ้อนของโซลูชั่นการทำงานอัตโนมัติชัดเจน ทันทีที่เราเข้าไปในอาคารฝ่ายผลิตของ Bilcare Research ซี่งมีการตัดม้วนหลักของบรรจุภัณฑ์แบบบลิสเตอร์สำหรับยาอยู่ "เราได้นำระบบอัตโนมัติมาใช้งานในฝ่ายการบรรจุภัณฑ์จนถึงพาเลทที่พร้อมขนส่งให้ลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของห้องตัดด้วยระบบตัดม้วนบรรจุภัณฑ์อัตโนมัติแบบใหม่ของ KAMPF" โยเคน โมลต์ ผู้จัดการประจำโรงงานของ Bilcare Research อธิบาย
"นอกจากนั้นแล้ว ยังมีการอัปเกรดเครื่องจักรที่มีอยู่ทั้งสองหลังในการเชื่อมต่อกับสายการผลิตม้วนบรรจุภัณฑ์ระบบอัตโนมัติกระจายศูนย์ของ KOCH ให้ทันสมัยด้วย เหตุผลสำหรับการลงทุนครั้งนี้ คือ แผนการเพิ่มผลผลิตในฝ่ายการบรรจุสินค้าและการบรรจุภัณฑ์ เราได้กำหนดสายการบรรจุภัณฑ์ภายในให้ระบบการตัดม้วนบรรจุภัณฑ์แต่ละระบบมาโดยตลอด"
PLC จะเป็นตัวเลือกรูปแบบในการจัดวางสินค้าบนพาเลท
มีการป้อนข้อมูลคำสั่งซื้อเข้ามาในระบบ SAP-ERP ที่จะวางแผนงานและส่งไปยัง ระบบควบคุมด้วย PLC ของ KOCH ให้เหมาะกับการผลิต จะมีการบันทึกข้อมูลเครื่องจักรผ่านทางระบบ MES แบบใหม่ ซึ่งเป็นโซลูชั่นย่อยเฉพาะเจาะจงสำหรับตัวผลิตม้วนบรรจุภัณฑ์และตัวแปลง PLC จะตรวจสอบเส้นผ่าศูนย์กลางของม้วนบรรจุภัณฑ์ และรูปแบบของการจัดวางสินค้าบนพาเลทกับขนาดของตัวรองรับน้ำหนักที่กำหนด และจะทำการเลือกว่าสามารถทำการจัดวางสินค้าบนพาเลทโดยอัตโนมัติได้ หรือใหม่ด้วย การตรวจสอบความเป็นไปได้ มิฉะนั้น จะมีการนำม้วนบรรจุภัณฑ์ต่อไปยังสายการบรรจุภัณฑ์แยกต่างหาก
มีการพัฒนาระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบสำหรับการจัดตำแหน่งบุชชิ่ง โดยหุ่นยนต์ KUKA KR 6-2 จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการจัดตำแหน่งและการวัดเพื่อให้มั่นใจได้ว่าบุชชิ่งจะอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง หุ่นยนต์จะจัดตำแหน่งระหว่างบุชชิ่ง 2 และ 20 ตัวขึ้นอยู่กับงาน โดยจะนำบุชชิ่งออกจากแม็กกาซีนแบบอัตโนมัติ หรือสามารถเลือกต่อเข้ากับเครื่องตัดบุชชิ่งโดยตรงได้
หลังจากนั้น หุ่นยนต์จะนำบุชชิ่งไปไว้ที่ ชุดเครื่องหนีบยึดและโอนย้าย ที่จะรับประกันว่าจะมีการดันบุชชิ่งเข้าที่แกนเพลาขดอย่างถูกต้อง ข้อดีประการสำคัญอยู่ที่ เครื่องตัดและหุ่นยนต์ทำงานเป็นอิสระจากกัน หากมีงานใหม่ หุ่นยนต์จะได้รับความกว้างในการตัดและตำแหน่งใหม่ผ่านทางระบบบริหารจัดการคำสั่งซื้อ และการปรับใบมีดที่กำหนด
หุ่นยนต์ KR QUANTEC จากรุ่น KR 300 R2500 ultra ที่กำหนดให้อุปกรณ์การตัดม้วนบรรจุภัณฑ์จะนำม้วนแผ่นฟิลม์ที่เสร็จแล้วไปวางไว้บนสายพานลำเลียง ซึ่งม้วนดังกล่าวมีเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 250 ถึง 800 มิลลิเมตร น้ำหนักตั้งแต่ 10 ถึง 200 กิโลกรัม และมีความกว้างตั้งแต่ 75 ถึง 450 มิลลิเมตร มีการติดตั้งหุ่นยนต์พร้อมมือหนีบไว้ที่อุปกรณ์ดังกล่าว ซึ่งสร้างแรงดันต่ำจากภายนอกเพื่อไม่ทำให้ม้วนแผ่นฟิลม์เสียหาย
ชุดควบคุมเครื่องจักรจะทำการปรับตั้งมือจับให้เหมาะกับเส้นผ่าศูนย์กลางของม้วนบรรจุภัณฑ์ หุ่นยนต์จะเคลื่อนที่ และเบรกอย่างนุ่มนวลเพื่อไม่ทำให้ขอบของม้วนบรรจุภัณฑ์เสียหายในขณะที่วางลง หุ่นยนต์ KR QUANTEC ได้รับการยอมรับในเรื่องน้ำหนักบรรทุกที่สูง 300 กก. และระยะยืด 2,500 มม. แต่ยังมีความยืดหยุ่นอีกด้วย จึงทำให้น้ำหนัก เส้นผ่าศูนย์กลาง และความกว้างที่ต่างกันไม่เป็นปัญหาสำหรับมืออาชีพในการจัดการเช่นหุ่นยนต์นี้
แนวคิดเกี่ยวกับระบบแบบสุ่ม
ก่อนและหลังการบรรจุภัณฑ์ จะมีการติดป้ายที่ด้านในของบุชชิ่งและป้ายที่ด้านนอกให้ม้วนบรรจุภัณฑ์ ซึ่งจะมีหมายเลขคำสั่งซื้อ จึงสามารถระบุสินค้าได้ทุกเมื่อ แนวคิดเกี่ยวกับระบบกระจายศูนย์ มีข้อดีอยู่หลายข้อ ตัวอย่างเช่น สามารถทำการสุ่มบรรจุม้วนบรรจุภัณฑ์ไม่เรียงกันโดยไม่ยึดตามขนาด และสามารถพันด้วยแถบฟิลม์ยืดโดยอัตโนมัติ จากนั้น จะมีการติดป้ายกำกับและป้ายคำสั่งซื้อไว้ด้านนอกของม้วนที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่อีกสถานีหนึ่ง แล้วจึงทำการขนส่งไปยังฝ่ายการจัดวางสินค้าบนพาเลทแบบอัตโนมัติ เครื่องอ่านบาร์โค้ดจะบันทึกข้อมูลที่ป้ายเพื่อรับประกันการจัดสรรตามสายงานได้ถูกต้อง
ม้วนบรรจุภัณฑ์มาถึงฝ่ายการจัดวางสินค้าบนพาเลทโดยไม่มีการจัดเรียงเป็นระเบียบ และจะถูกจัดสรรไปให้หุ่นยนต์เคลื่อนที่สามตัว รวมถึงหุ่นยนต์รุ่น KR 300 R2500 ultraด้วย หุ่นยนต์ทั้งหมดจะทำการจัดวางสินค้าบนพาเลท 18 พาเลทตามคำสั่งงาน พาเลทสี่ชนิดที่จำเป็นต้องใช้งานถูกยึดอยู่ในแม็กกาซีน และจะถูกส่งไปยังสถานีสำหรับการจัดวางสินค้าบนพาเลทโดยอัตโนมัติ
หุ่นยนต์ของ KUKA จะนำม้วนที่บรรจุหีบห่อไปตั้งหรือวางนอนตามที่กำหนดไว้ในอุปกรณ์บรรทุกสินค้า และใส่แผ่นป้องกันหรือโฟมกันกระแทกตามความจำเป็น ซึ่งมีการใช้งานห้ารูปแบบที่ Bilcare Research และอาจจะใส่ฐานรองพื้นและฝาป้องกันด้วย
ในกระบวนการนี้ หุ่นยนต์ที่มีมือหนีบพัฒนาขึ้นโดย KOCH จะทำงาน ซึ่งมือหนีบดังกล่าวประกอบด้วยทุ่นแมนเดรลขนาดใหญ่หนึ่งอันและตัวดูดสูญญากาศรองรับผนังกั้น ฐานรองพื้นและฝาป้องกัน PLC จะทำการคำนวณรูปแบบตัวอย่างการจัดวางสินค้าบนพาเลทสำหรับม้วนขนาดต่างกัน
ชุดควบคุมนี้สามารถกระจายงานให้พาเลทไปยังเครื่องพันม้วนทั้งหมดได้ อันสืบเนื่องจากแนวคิดเกี่ยวกับระบบแบบสุ่ม อีกทั้งยังสามารถนำพาเลทจากแผนกอื่นของโรงงานไปเพิ่มให้ส่วนของระบบอัตโนมัติรักษาความปลอดภัยสำหรับสินค้าบรรทุกได้ เครื่องสแกนบาร์โค้ดจะบันทึกข้อมูลพาเลทดังกล่าวที่เข้ามาในระบบและดำเนินการบริหารจัดการ
พาเลทปลอดภัยพร้อมสำหรับการขนส่งทีสถานีทำการมัดและทำการติดป้ายด้วยเครื่องติดป้าย รถยกจะขนย้ายอุปกรณ์บรรทุกสินค้าที่เรียบร้อยแล้วไปยังพื้นที่สำหรับการขนส่ง บันทึกข้อมูลคำสั่งซื้อจะถูกส่งไปต่อยังชุดควบคุม PLC ของ KOCH ซึ่งจะแจ้งให้ระบบ ERP ทราบขั้นตอนการขนส่งและการบรรจุภัณฑ์ที่เสร็จสมบูรณ์
ความสามารถในการผลิตเพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์
สายการบรรจุภัณฑ์แบบอัตโนมัติช่วยให้เกิดผลลัพธ์ตามความต้องการของลูกค้าของ Bilcare Research ได้เร็วและยืดหยุ่นมากขึ้น โดยยึดหลักการดำเนินงานตามคำสั่งซื้อของลูกค้าแต่ละรายโดยอัตโนมัติ การเพิ่มความพร้อมในการใช้งานของระบบและการก้าวเข้าสู่แนวคิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม "Industrie 4.0"
ระบบการทำงานอัตโนมัติช่วยให้มีการเพิ่มผลิตสูงขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ในช่วงสองปีแรกแล้ว คุณภาพและมาตรฐานด้านสุขอนามัยก็ดีขึ้นด้วย นอกจากนั้น ระบบใหม่นี้ยังช่วยลดภาระงานหนักให้คนงานด้วย เนื่องจากหุ่นยนต์ทำหน้าที่จัดการกับม้วนบรรจุภัณฑ์ที่มีน้ำหนักมากแทน
อีกทั้งยังมีการพัฒนาการวางแผนการผลิตและโลจิสติกส์การผลิตด้วยอินเทอร์เฟสชุดควบคุมการผลิตสำหรับระบบ ERP เชิงพาณิชย์อีกด้วย นายโมลต์มองไปถึงอนาคตแล้ว: